Wat Dan

Last updated: 17 ธ.ค. 2566  |  3200 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Wat Dan

วัดอุปนันทาราม (วัดด่าน จังหวัดระนอง)

          แต่เดิมเป็นสำนักสงฆ์ที่อยู่ในป่าช้า ใจกลางเมืองระนอง ได้รับการอุปการะจากนายบ่าเซ่ง เศรษฐีไทยเชื้อสายพม่า ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวระนอง (จีน-ไทย-พม่า) ที่ดินเริ่มแรก 8 ไร่ 1 งาน 50 ตรว. ต่อมาบริษัทไซมิสติน ซินดิเกต จำกัด ซึ่งได้สัมปทานเหมืองแร่ในระนองขณะนั้น ได้บริจาคที่ดินเพิ่มเติมอีกรวม 22 ไร่ 2 งาน 34 ตรว. การสร้างวัดแรกๆ เป็นการสร้างเรือนไม้ทรงปั้นหยาตามศิลปะของภาคใต้  โดยมีหลวงพ่อบรรณ ได้อยู่สร้างจนวัดได้ขึ้นทะเบียนในกรมการศาสนา เมื่อปี พ.ศ. 2436 หลวงพ่อบรรณได้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดด่าน และเป็นเจ้าคณะจังหวัดองค์แรกของจังหวัดระนอง ในสมัยนั้นด้วย 

     เสนาสนะ ที่สำคัญมีดังนี้

  1. พระอุโบสถ กว้าง 9 เมตร 30 ซม. ยาว 16 เมตร 80 ซม. สร้างเมื่อ พ.ศ. 2490 มีลักษณะเป็นศิลปะผสมผสานตัวอาคารเป็นทรงสเปนและประตูสลักลายไทย ส่วนกรอบประตูและหน้าต่างเป็นลวดลายดอกไม้จีน พระอุโบสถแห่งนี้ได้รับการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2518 โดยมีลักษณะแต่งต่างจากเดิมคือไม่มีชือฟ้า ใบระกา ทำให้ดูเหมือนแบบลักษณะเฉพาะ
  2. เจดีย์ทรงมอญ-พม่า ฐานเป็นแบบไทย สร้างขึ้นโดยมหาอำมาตย์ตรี พระยาประดิพัทธ์ภูบาล (คอยู่เหล ณ ระนอง) ภายในบรรจุพระพุทธรูปปางลีลา และพระเครื่องเอาไว้
  3. ศาลาการเปรียญ เป็นลักษณะทรงไทยโบราณศาลาทรงปั้นหยา มีหน้ามุข 4 ด้าน กว้าง 11 เมตร 50 ซม. ยาว 18 เมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ.2480 ชื่อว่า "กุฎิระณังค์อุปนันทานุสรร์ 120 ปี ใช้เป็นที่สอนพระปริยัติให้แก่พระภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไป เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างปี พ.ศ.2519

     ปูชนียวัตถุ ที่สำคัญคือ

     สมเด็จพระศรีเทพพุทธมงล วิมลมหามุนีศรีสรรเพชญ์ พระประธานองค์นี้หล่อจากโลหะมีต้นเค้ามาจากพระพุทธรูป "เชียงแสน สงหหนึ่ง) ซึ่งเป็นพระโบราณของวัด พระพุทธรูปหล่อเนื้อทองเหลืองขัดเงาสวยโดดเด่นเป็นสง่า เป็นพระคู่บ้านระนอง พุทธลักษณะปางมารวิชัย หน้าฐานกว้าง 56 นิ้ว ความสูงจากฐานถึงพระเกษมาลา 2 เมตร

         ประวัติหลวงพ่อบรรณ พุท.ธสโร หรือ พระครูศีลพงษ์คณารักษ์ (เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดด่าน พ.ศ. 2436 - 2463)

          หลวงพ่อบรรณ ได้บวชเป็นพระในช่วง พ.ศ. 2418 เดิมเป็นชาวเมืองไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อบวชได้ 10 กว่าปี ได้ออกจาริกธุดังค์ จากเมืองไชยา ผ่านเมืองหลังสวนและเข้ามาเมืองระนองสมัยนั้น ได้มาปักกลดอยู่ในป่าช้าของหมู่บ้านท่าด่าน ชาวบ้านในสมัยนั้นได้นำของไปถวายและได้สนทนาธรรม คนเถ้าคนแก่สมัยนั้นเห็นว่าหลวงพ่อบรรณ เป็นพระที่มีความรู้ด้านเวทย์มนต์และอาคมดี เป็นพระเก่งกล้าจ ึงได้นิมนต์ให้อยู่สร้างวัดด่าน 

 

ความอภินิหารและวาจาสิทธิ์ของหลวงพ่อบรรณ หลายครั้งเช่น

  1. เคยมีคนเข้ามาขโมยมะพร้าวในสวนของวัด ตอนกลางคืน ทำให้คนขโมยเดินออกจากสวนมะพร้าวของวัดไม่ได้ ต้องอยู่จนรุ่งสว่างหาบมะพร้าวเดินวนอยู่ในสวนของวัดกลับบ้านไม่ถูก พอรุ่งเช้าหลวงพ่อบรรณไปพบคนที่โขมยมะพร้าวยังหาบมะพร้าวอยู่ท่านบอกว่า "มึงวางต้า" คนที่ขโมยเมื่อได้ยินจึงวางมะพร้าวลงและเดินออกจากสวนวัดไป
  2. เรื่องไฟไหม้ตลาดเก่า (ตลาดชุมชนในเมืองระนองสมัยก่อนห่างจากวัดประมาณ 1 กิโลเมตร) เมื่อหลวงพ่อบรรณทราบข่าวว่าไฟไหม้ บ้านของชาวบ้านได้รีบเดินทางไปที่เพลิงกำลังไหม้อยู่ เมื่อหลวงพ่อบรรณไปถึงท่านได้กำทรายขึ้นมาเสกแล้วเป่าเวทมนต์พร้อมด้วยหว่านทราย ทำให้ไฟที่กำลังไหม้ดับลงทันตาเห็น ไม่ลุกลามไปบ้านหลังอื่น หลวงพ่อบรรณท่านเป็นพระที่มีเวทย์มนต์คาถาเก่งกล้ามากในยุคนั้น มีหลายครั้งหลายหนที่ท่านแสดงอภินิหารให้คนในสมัยนั้น ท่านได้อยู่ดำรงตำแหน่งจ้าวอาวาสตั้งแต่ปี พ.ศ. 2436 - 2463 หลวงพ่อบรรณได้มรณภาพเมื่ออายุ 79 ปีเศษ 

          ปัจจุบันเป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวระนองมีผู้คนมากราบไหว้บนบานศาลกล่าวทุกวันนี้มิได้ขาด แก้บนด้วยหมากพลูดำ, บุหรี่ม้วยใหญ่ ยาเส้นในดอง ข้าว แกงเผ็ดเนื้อ น้ำพริกกะปิเผา

 

      ด้านการปกครอง

     ปัจจุบัน พระครูอุปนันทโสภณ (โสภณ โสภโณ ชุ่มชื่น) พ.ศ. 2536 - ปัจจุบัน และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองระนอง มีพระครูวิมลกิจจาภรณ์ (กิตติภัทร กิต.ติภท.โท) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฝ่ายปกครอง  และพระครูปลัดกิตติศักดิ์ อติเมโธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ฝ่ายการศาสนศึกษา มีตำแหน่งเป็นเลขาเจ้าคณะอำเภอเมืองระนอง เพิ่มอีกด้วย

     ประเพณีประจำปีของวัดอุปนันทาราม

  1. พิธีหล่อเทียนพรรษา
  2. พิธีถวายผ้าพระกฐินประจำปี
  3. พิธีห่มผ้าพระโพธิญาณ และพระเจดีย์
  4. พิธีเวียนเทียนและวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

พระคาถา หลวงพ่อบรรณ

พุท.ธํ  อาราธนานํ  ธม.มํ  อาราธนานํ  สํฆํ  อาราธนานํ  

พุท.ธานุภาเวน  ธม.มานุภาเวนะ  สํฆานุภาเวน

มํรก.ข  ต.มหาลาภํ  วน.ตุเม

 

Uppanan Taram Temple (Wat Dan)

          Located in the Middle of downtown on Thamuang Road. Build in 1893 in the period of King Rama V.

          The monastery building style mixed with Thai Chinese and Spanish in 1947. The Pagoda or Jadi (in Thai) build in period of King Rama VI, base of pagoda is Burmese style and the top build in Thai style inside pagoda have The walking buddha posture . 

 

ขอขอบคุณข้อมูล ดังนี้

  1. เฟสบุ้ค Facebook: วัดอุปนันทาราม  วัดด่าน ระนอง
  2. เฟสบุ้ค Facebook: วิมลกิจจาภรณ์ พระราม
  3. ยูทูป - Youtube : Pornchai Iamsopon (พรชัย เอี่ยมโสภณ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดระนอง)
  4. รายการพระคู่บ้านคู่เมือง https://www.bugaboo.tv/ 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้